Author Archives: eve
Thailand Baby&Kids Best Buy ครั้งที่ 29
Amarin Baby&Kids Fair ครั้งที่ 11
พาลูกเที่ยว…ได้อะไรมากกว่าที่คิด
หนาวนี้แม่ๆ มีแพลนพาลูกๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันคะ…
สำหรับบ้านนี้ เราจะไปญี่ปุ่นกันค่ะ เราแพลนและจองตั๋วกันไว้ตั้งแต่ พ.ย. ที่แล้ว เลือกไปช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จุดหมายคือ อยากพาลูกสาว น้องเจเปค ไปดูภูเขาไฟภูจิและเดินเที่ยวในโตเกียว อยากให้เค้าเห็นการใช้ชีวิตที่เป็นระเบียบมากๆ ของคนญี่ปุ่นค่ะ (เพราะอยู่บ้านนางจะกรี๊ดกร๊าดหน่อยๆ)
ควรพาลูกเที่ยวตอนอายุเท่าไหร่…
เป็นคำถามที่แม่ๆ กังวล กลัวนู้นนี่ รวมถึงเสียงจากรอบข้างว่าน้องยังเล็ก เที่ยวไปก็จำอะไรไม่ได้ แต่บ้างบ้านก็อยากใช้สิทธิ์ค่าตั๋วราคาพิเศษสำหรับเด็ก 7 วัน – ไม่เกิน 2 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน สำหรับน้องเจเปค ครั้งนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 2
ขอเล่าย้อนหลังนิดนึงค่ะ ครั้งแรกของน้องไปตอน 1 ขวบ 1 เดือน เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่โอซาก้า อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่าเสียงรอบ ๆ ตัวที่บอกว่าน้องยังเล็กไป พาไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก จำอะไรไม่ได้หรอก แต่หลังจากกลับมาจากรอบแรก หลายครั้งที่น้องเจออะไรเกี่ยวกับที่ตัวเองเคยทำที่นู่น ไม่ว่าจะเป็นขึ้นรถไฟ โหนรถไฟ ใบไม้แดง อาหารญี่ปุ่น น้องจำได้เยอะจนทุกคนงงไปเหมือนกัน เราพ่อแม่ก็แฮปปี้สิคะ
จริงๆแล้วลูกสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้ แต่อาจจะจำได้ไม่ละเอียดเหมือนผู้ใหญ่ เด็กวัย 1-3 ปี เป็นวัยทองแห่งการเรียนรู้ ความเฉลียวฉลาด และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ต้องได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากพ่อแม่ เพื่อให้สมองเติบโตมีพัฒนาการเต็มศักยภาพ เราเลยตั้งใจว่าจะพยายามพาลูกไปเก็บประสบการณ์ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
รอบนี้เลยตั้งใจใช้ช่วงเวลาปิดเทอมพาน้องไปเที่ยว โดยทริปนี้มีสมาชิกทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่ 5 คน เด็ก 1 คน โดยทริปนี้ เราไปกับแบบแพลนหลวม ๆ แล้วไปปรับเอาตามสภาพอากาศและ ความพร้อมของเด็กน้อย ซึ่งคราวนี้อะไรๆก็อาจจะไม่ง่ายเหมือนคราวที่แล้วนะคะ เพราะไปคราวที่แล้วนางยังเดินไม่ได้และพูดไม่ได้ แต่คราวนี้สิคะคุณขา ทั้งซน ทั้งแสบ ทั้งวิ่ง ทั้งพูดเยอะ โอยไม่อยากจะคิดเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ พ่อกับแม่เลยต้องเตรียมตัวทั้งสุขภาพกายและสุภาพใจให้พร้อมกันพอสมควร และนอกจากนี้อุปกรณ์ของใช้สำหรับเด็กก็ควรจะเตรียมให้พร้อมไว้ก่อนเพื่อความสะดวกในการเดินทางค่ะ
เริ่มจัดกระเป๋ากันค่ะ
- เสื้อผ้า เนื่องจากช่วงที่ไป เชคอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 8-20 องศา ซึ่งก็ถือว่าเย็นพอสมควรสำหรับเด็กค่ะ แถมยังมีฝนในบางวันอีกด้วย สำหรับเสื้อผ้ากันหนาวเด็กที่เราเลือกดูคือ Uniqlo ค่ะ เพราะค่อนข้างครบ และสะดวกสำหรับที่บ้านเรา ได้เสื้อกันลมและกันหนาวมา 1 ตัว พร้อมเสื้อฮีทเทคคอเต่า 1 ตัว เสื้อ extra warm ฮีทเทค 1 ตัว และกางเกงฮีทเทคอีก 2 ตัว ค่ะ ส่วนเสื้อผ้าอื่น ๆ ก็เน้นที่ใส่สบายตัว ไม่อึดอัด เอาตามแบบที่น้องชอบเลยค่ะ เสื้อกันหนาวน้องแบบนี้เลยค่ะ ด้านในมีฮีทเทคทั้งกางเกงและเสื้อ สบายค่า
- อุปกรณ์กันหนาวอื่นๆเราเตรียม ถุงมือกันหนาว หมวกไหมพรหม ผ้าพันคอ ถุงเท้า และรองเท้าผ้าใบที่น้องใส่สบายค่ะ
- ของใช้ส่วนตัวก็จะเตรียมแพมเพิสไว้สำหรับการเดินทางบนเครื่องบินและรถไฟ ซึ่งเป็นตัวช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ลดความวุ่นวายระหว่างเดินทางได้ดีเลยค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีเจลล้างมือสำหรับเด็ก ทิชชูเปียก และยา ที่จะติดกระเป๋าแม่อยู่ตลอดเวลาค่ะ
- ยา ที่เตรียมไปหลัก ๆ ก็จะมี ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก (Zyrtec) ยาลดไข้ (Tempra) ยาแก้ไอ vic แผ่นแปะลดใข้ ยาแก้ท้องเสีย
- รถเข็นเด็ก เรื่องใหญ่สำหรับการพาเด็กเล็กเที่ยวต่างประเทศกันเลยค่ะ สำหรับเด็ก 4 ขวบ รถเข็นยังเด็กเป็นสิ่งจำเป็นมากในการท่องเที่ยวแบบนี้อยู่นะคะ เพราะน้องยังไม่สามารถเดินไกล ๆ แบบผู้ใหญ่ได้ หากเหนื่อยหรืองอแงขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่คงต้องอุ้มด้วยแล้วเดินกันไปด้วยวันเป็นสิบกิโล คงไม่ไหวค่ะ หมดสนุกแน่นอน
แต่ด้วยความที่มีประสบการณ์จากครั้งแรกตอนขวบนึงมาแล้ว ครั้งนั้นใช้รถเข็นคันใหญ่ น้ำหนักเยอะ พับยาก ไม่คล่องในการเดินทางเอาซะเลยค่ะ บางสถานีรถไฟในญี่ปุ่นไม่มีลิฟท์ ทำให้ต้องยกรถกันเหนื่อยเลย
ไปครั้งนี้เราเลยเลือกรถเข็นเด็กกันพอสมควรค่ะ ดูกันหลายแบรนด์ ทั้งที่พับได้เล็กมาก ๆ พับไม่เล็ก แต่เบากว่า ซึ่งสุดท้ายเราเลือกรุ่นที่มีน้ำหนักเบาที่สุด แข็งแรง ล้อใหญ่ และสามารถพับง่ายได้ด้วยมือเดียว ซึ่งน่าจะสะดวกกับการเดินทางของเรามากที่สุด นั่นคือตัว Aprica Magical Air Plus High Seat โดยมีน้ำหนักแค่ประมาณ 3 กิโลกรัมนิดๆเองค่ะ แข็งแรงไว้ใจได้ ปรับนอนได้อย่างสบาย และในบางจังหวะคุณแม่สายสตรองอย่างเราสามารถหิ้วรถเข็นมือนึง และอุ้มลูกอีกมือนึง ได้สบายๆเลยล่ะค่ะ
ฝนตกก็บ่ยั่น ลุยลงพื้นขรุขระก็สบายค่ะ
ตัวหนอนก็ไปได้
นอนดูฟูจิเพลินไปเลย
รถเข็นเด็กเอาขึ้นเครื่องบินยังไง
เราสามารถเข็นรถไปแจ้งที่เค้าเตอร์เชคอินของสายการบินได้เลย ว่าเราต้องการเข็นรถเข็นน้องเข้าไปในเกตได้เลยค่ะ เจ้าหน้าที่ก็จะติด Tag ที่รถเข็นให้ หลังจากนั้นเราก็เข็นน้องเข้าไปได้จนถึงประตูเครื่องบินเลยค่ะ อันนี้สะดวกมากๆ ไม่ต้องอุ้มให้เปลืองพลังงาน สบายไปแปดอย่างเลยค่ะ พอถึงปลายทาง เดินออกจากเครื่อง รถเข็นก็จะมารอ พร้อมลุยกันได้เลย
เรื่องความกังวลในการเดินทางบนเครื่องบิน
อันนี้ยอมรับว่าแม่กังวลมากเลยค่ะ จากคราวที่แล้วที่พาขึ้นเครื่องตอนน้องอายุ 1ขวบ1เดือน น้องยังพูดไม่คล่อง ยังเดินไม่ได้ ใช้เบาะนอนสำหรับเด็กบ้าง การหลอกล่อเด็กน้อยจึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ทริปนี้ด้วยความที่น้องโตขึ้น และมีความแสบสัน ระดับ 8 มีความพูดเยอะระดับ10 การเดินทางยาว 6 ชม. ในเครื่องบินของนางจึงเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวต่อการรักษาความสงบภายในห้องผู้โดยสารเป็นอย่างมาก
ทางเรานั้นคิดวิธีต่างๆนาๆ ที่จะทำให้นางนิ่ง ซนน้อยๆ พูดเบาๆ สิ่งที่บ้านเราเตรียมไว้สำหรับ final choice คือ โหลดการ์ตูนที่น้องชอบมาเผื่อไว้แบบเต็มพิกัดกันไปเลยค่ะ เอาแบบอยากดูอะไรเต็มที่ไปเลยให้โอกาสแค่ 6 ชม.นี้เท่านั้น ฮ่าๆๆ แต่พอถึงเวลาจริง พอเครื่องเริ่มเทคออฟ เจ้าแสบน้อยกลับมาเกาะแขนป่ะป๊า กลัวเสียงดังของเครื่องบิน แล้วก็หลับไปเฉยเลย ตื่นอีกทีหลังจากบินไปแล้วครึ่งทาง โอ้ว..โลกสงบสุขกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ เวลาที่เหลือก็หลอกล่อด้วย ขนมบ้าง ของเล่นบ้าง การ์ตูนบ้าง สลับวนๆไปค่ะ สรุปว่าการรักษาความสงบภายในเครื่องบินของเราครั้งนี้ดีเกินคาด คลายความกังวลไปเลยค่ะ เกาะแขนแน่นเลย
แล้วนางก็ตีตั๋วนอนค่ะ ป่ะป๊าก็ลุกเดินวนไป
เรื่องสำคัญของพวกเรา “อาหารการกิน”
ในช่วงก่อนเดินทาง เราคุยกับน้องทุกวันว่าอยู่นู่นเราต้องกินง่ายๆ อยู่ง่ายๆนะคะ จะได้ไปเที่ยวกันสนุก ๆ กินอะไรก็ได้ กินที่ไหนก็ได้ ซึ่งตอนแรกก็ห่วงกันว่าจะต้องกินข้าวเปล่ากับไข่ต้มกันยาว ๆ รึเปล่า แต่สุดท้ายความกังวลทุกอย่างก็หมดไป น้องกินแหลกมากค่ะ ซูชิ อุด้งราเมน ข้าวปั้นจิ้มไข่กุ้งกับไข่แซลมอน (ซื้อไข่เป็นกล่องตาม supermarket) ปลาดิบ กุ้งหวาน ข้าวหน้าปลาไหล ไอติม ผลไม้สด บางวันก่อนนอนยังร้องกินโอเด้ง 7 อุ่น ๆ ปิดท้ายวัน สายแหลกมากๆ ไม่ต้องเดาเลยว่าลูกใคร ฮ่าๆๆๆๆ
มื้อแรกที่โตเกียว หน้าตาง่วงมาก แต่ก็ซดหมด
ร้องกินติมจ้า แถมยังบอกอีกว่า ดีเนอะแม่ ไอติมไม่ละลาย
ข้าวหน้าปลาไหลครึ่งชาม และ กินมาม่าครั้งแรก ก็ที่นี่ล่ะค่า
มีรูปครอบครัวแล้ว
น้องเจเปค สาวน้อยวัย 4 ขวบ จะพาเที่ยวญี่ปุ่นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่กำลังงามสะพรั่ง แนะนำการเตรียมตัวพาลูกเที่ยว ตั้งแต่จัดกระเป๋า อุปกรณ์กันหนาว และรถเข็นเด็กคู่ใจ ตามรีวิวนี้ได้ที่ https://pantip.com/topic/37072412 และฝากติดตามเพจพาลูกเที่ยว https://www.facebook.com/goaroundkid/
ขอบคุณรีวิวน้องเจเปคกับรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Magical Air Plus Highseat ที่ช่วยให้การเดินทางทริปนี้สะดวกสบาย และคล่องตัวมากๆค่ะ
…ข้อแนะนำ…
รถเข็นเด็กเป็นสิ่งจำเป็นมาก เมื่อต้องไปต่างประเทศ ควรเลือกแบบที่พับกางง่าย เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง นอกจากนี้ความสบายของเด็กๆ ก็สำคัญเช่นกัน ต้องเป็นผ้าระบายอากาศ ไม่ร้อน ปรับเอนนอนได้ ถ้าเด็กๆ สบายตัว ไม่อึดอัด เขาก็จะสนุก มีความสุข ไม่งอแง ปิดเทอมนี้จัดทริปเลยค่ะ สนุกแน่นอน
#รถเข็นเด็กยอดขายอันดับ1ในญี่ปุ่น
#Aprica70ปีที่ใส่ใจคุณและลูกน้อย
การเลือกรถเข็นเด็ก เลี้ยงลูกตามใจหมอ
รถเข็นเด็กยี่ห้อไหน ที่หมอเด็กเลือกให้ลูกตัวเอง โดยหมอวิน เพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ
#รถเข็นเด็ก และ #สิ่งพึงกระทำ
#อุปกรณ์ยังชีพสำหรับแม่สายชิล
บอกก่อนเลยว่า รถเข็นเด็ก นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้จำเป็นครับ หากมองในแง่ของการเลี้ยงดูและความปลอดภัย ไม่เหมือนคาร์ซีท ที่จำเป็นมาก ๆ ๆ (ไม้ยมก … ล้านตัว)
แต่ “รถเข็นเด็ก” ก็เป็น gadget ที่ยากจะปฏิเสธ เพราะมันทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะมากครับ แต่ถ้าใครเป็นสายอุ้ม … อุ้มโลดจ้ะ แต่มันก็จะเมื่อยถึงเมื่อยมาก จริง ๆ… ดังนั้นเลือกรถเข็นเด็กที่เหมาะกับเงินในกระเป๋า และความสบายตัวของลูกละกันครับ
รถเข็นเด็ก …ประโยชน์
- ทำให้ลูกสามารถหลับได้ยามง่วงตอนไปนอกบ้าน
- ทำให้พ่อแม่ไม่เมื่อยมืออุ้มในเด็กเล็ก เวลาลูกเมื่อยและเหนื่อยในวัยเดินได้
- เราสามารถพาลูกไปเที่ยวได้และมั่นใจว่าลูกจะไม่วิ่งจู๊ดไปไหนจนเกิดอุบัติเหตุครับ … เพราะถูกล็อคเบื้องต้นบนรถเข็นเด็ก ทำให้ดูแลง่าย
- ที่เด็ดที่สุดในความคิดของภรรยาหมอ คือ เอาไว้วางถุงช้อปปิ้งด้วย 555 … ไม่เมื่อยมือดี
แต่อย่างไรก็ตาม … มีการรายงานว่า สามารถเกิดอุบัติเหตุได้หากใช้รถเข็นเด็กแบบไม่เหมาะสมครับ มีหลายเคสที่มาด้วยรถคว่ำหรือไหลจากที่สูงจนคว่ำทำให้หัวลูกกระแทกพื้นได้ครับ … จน AAP หรือสมาคมกุมารเวชศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาต้องออกมาแนะนำรถเข็นเด็ก ว่าสิ่งที่พ่อแม่พึงกระทำยามใช้รถเข็นเด็กครับ……นั่นคือ
- ใช้สายรัดทุกครั้งเมื่อวางเด็กในรถเข็นเด็ก ตามคู่มือของรถเข็นเด็กชนิดนั้น ๆ
- กรุณาใส่ของใช้ เช่น ผ้าอ้อม กระเป๋า ที่ตระกร้าใต้รถ “อย่าแขวนไว้ตรงแฮนด์รถเข็น” เพราะอาจทำให้รถพลิกคว่ำได้
- ใส่เบรคทุกครั้งที่จอด เพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล
- ใช้งานตามอายุและน้ำหนักที่แนะนำของรถเข็นเด็กแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ
- อย่าใช้รถเข็นเด็กเป็นเตียงนอนในเด็กอายุต่ำกว่า 4 เดือนครับ เพราะเด็กยังตัวเล็กมาก และสามารถเลื่อนตัวจนทำให้จมูกถูกอุด จนหายใจไม่ออกได้ครับข้อ 6-10 พ่อหมอเพิ่มเติมเอง ตามการใช้งานจริงของรถเข็นที่บ้านครับ เพื่อความสะดวกละครับ (1-5 เป็นคำแนะนำของอเมริกา)
- ปรับนอนราบได้ บางรุ่นปรับได้เกือบราบ (170 องศา) โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิดเพราะคอยังไม่แข็งแรง นอนง่าย และ หลับสบาย
- มีแผ่นรองคอและรองหลัง เป็นสิ่งที่ดีครับสำหรับเด็กแรกเกิด จะป้องกันไม่ให้หัวและสันหลังโงกเงกครับ เพราะคอยังไม่แข็ง บางยี่ห้อให้มาเลย บางยี่ห้อไม่มี ต้องไปซื้อเพิ่มมาเองครับ ลองดู พ่อหมอว่า มีก็ดีครับ
- หมุนได้สี่ล้อ … กลับหน้าหลังได้ อันนี้เพื่อความสะดวกสบายของคนเข็นครับ และเข็นได้ลื่นกว่า …ส่วนที่ควรกลับหน้าหลังได้ก็เพื่อให้ลูกเห็นหน้าแม่ แม่มองหน้าลูกได้ตอนเข็นครับ บางยี่ห้อกลับหน้าหลังไม่ได้ บางยี่ห้อใช้วิธียกส่วนที่นอนกลับหน้าหลังเอง บางยี่ห้อแค่โยกด้ามจับเข็นก็กลับได้แล้ว
- น้ำหนักควรเบา เพราะถ้าหนัก คุณแม่จะยกเข้าออกรถได้ยากครับ ที่พ่อหมอใช้หรือเพื่อน ๆ ใช้กันจะน้อยกว่า 6-7 กิโล ไม่ควรเกินนี้ หากเยอะกว่านี้ยกยากไปละ กล้ามขึ้น 555
- เพื่อความชิลของเบบี๋ของเรา อาจจะมีออปชั่นอื่น ๆ เพิ่มอีก เช่น
- high chair คือ ระดับของรถสูง >50 ซม. ลดฝุ่นและสิ่งสกปรกจากพื้นได้
- มีหลังคาคลุมกันแสงแดดและ UV
- น้ำหนักเบา
- โครงสร้างโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี เพื่อความเย็นสบายของลูกครับ … เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อนเนอะ ฯลฯ
และทิ้งท้ายครับ ปัจจุบันพ่อแม่หลายคนนิยม รถเข็นเด็กแบบพับเล็ก ๆ ที่จับเป็นแบบก้าน ซึ่งดีในแง่การเดินทางและเอาขึ้นเครื่องเนอะ แต่หมอขอแนะนำแบบนี้ครับ
รถเข็นเด็กพับเล็กไม่เหมาะกับเด็กแรกเกิดครับ เพราะไม่มีที่รองคอ และที่นั่งมักทำให้เด็ก fix กับที่ไม่ค่อยได้ครับ รอโตกว่านี้ตอนจะไปเที่ยวต่างประเทศค่อยว่ากันครับ แต่หากลูกยังเล็กแนะนำอันที่แข็งแรงมีที่รองคอดีกว่าเนอะ …
ร้าน Baby Gift ตัวแทนจำหน่ายรถเข็นเด็ก Aprica แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่เหมาะกับคนเอเชียอย่างเรา ๆ เขาฝากมาประชาสัมพันธ์
รถเข็นเด็กด้วยนะจ๊ะ (ลูกหมอก็ใช้ยี่ห้อ Aprica อยู่ครับ ใช้โอเคเลยภรรยาบอก เพราะหมอเป็นสายอุ้มมากกว่าสายเข็น) ลองเข้าไปดูรายละเอียดและเลือกซื้อที่www.babygiftretail.com ได้นะครับ
ข้อมูลดีๆ จาก #หมอวินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ
Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น
คุณหมอวิน เลือกรถเข็นเด็กแรกเกิด Aprica Luxuna Series
เลือกรถเข็นเด็กให้ลูกวัยแรกเกิด ฉบับคุณแม่มือใหม่
เพราะรถเข็นเด็กทุกคัน ไม่ได้เหมาะกับเด็กแรกเกิดทุกคัน” หลายคนยังเข้าใจผิดว่ารถเข็นเด็กแต่ละคัน ดูๆแล้วก็คล้ายๆกัน น่าจะใช้เหมือนๆ กันแต่ในความเป็นจริง แล้วเด็กแรกเกิดมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดจึงต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่นอกจากจะช่วยปกป้องสรีระของลูกน้อย แล้วยังช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสุขอนามัยที่ดี และสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย
1. รถเข็นเด็กแรกเกิด ที่ดีควรสามารถนปรับให้นอนราบได้ 170 องศา ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด เพราะกระดูกสันหลังเป็นเส้นตรง ยังไม่แข็งแรง จึงควรจัดให้เด็กนอนในท่านอนราบที่เป็นธรรมชาติ
2. เบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย จะช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม โดยมีพื้นที่วางแขนแบบ W-Shape และวางขาแบบ M-Shape เพื่อให้ขยับตัวได้ง่าย ซึ่งเป็นท่านอนที่เป็นธรรมชาติสำหรับเด็กวัยแรกเกิด
3. ชุดหมอนรองคอและสะโพก เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับทารกวัยแรกเกิดที่คอยังโงนเงนไม่แข็งแรง Head Support ที่มีส่วนเว้าโค้งพอเหมาะจะช่วยสอดรับช่วงต้นคอและศีรษะ ป้องกันคอพับซึ่งอาจส่งผลต่อการปิดทับระบบทางเดินหายใจได้ Hip Support หรือหมอนรองสะโพก ช่วยประคองให้กระดูกสันหลังมั่นคงไม่โค้งหรือเอียง ช่วยจัดท่านั่งและนอนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
4. ด้วยระบบปรับอุณหภูมิในร่างกายลูกน้อยที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ เด็กทารกจะมีความสามารถในการควบคุมอุณหภุมิต่ำกว่าผู้ใหญ่ จึงทำให้มีเหงื่อออกมากกว่า โดยเฉพาะในเวลานอนซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายเสริมสร้างพัฒนาการอย่างเต็มที่ ดังนั้นเบาะที่มีคุณสมบัติช่วยระบายอากาศได้ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยลดความร้อน ความอับชื้นที่ก่อให้เกิดผดผื่นได้ดีช่วยให้ลูกน้อยสบายตัวไม่ศีรษะและหลังเปียกแฉะ ตื่นมาด้วยความสดชื่นไม่งอแง และด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ทีมวิจัยในญี่ปุ่นได้คิดค้นเบาะซึ่งมีนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Silky Air ที่ผลิตจากเส้นใยแบบ 3 มิติ ให้ผิวสัมผัสนุ่มสบาย และยังช่วยลดความอับชื้น ระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยรองรับสรีระได้อย่างนุ่มนวล
5. นอกจากเบาะระบายอากาศแล้วการเลือกโครงสร้างรถเข็นแบบโปร่งระบายอากาศทุกชั้น ตั้งแต่พนักพิงจนถึงที่นั่ง ยังมีส่วนช่วยลดความอับชื้นบริเวณหลังซึ่งเป็นส่วนที่มักมีเหงื่อออกง่ายได้ดีทีเดียว
6. ลองสังเกตเวลาที่ลูกนอนนานๆ ถึงแม้จะเปิดแอร์ไว้ตามศีรษะและหลังจะยังเปียกไปด้วยเหงื่อ ดังนั้นรถเข็นที่มีช่องระบายอากาศที่บริเวณหลัง จะช่วยระบายเหงื่อได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้รถเข็นที่มีฉนวนกันความร้อนสีเงินที่หลังยังช่วยสะท้อนความร้อนจากพื้น ไม่ให้สะสมที่หลัง ช่วยให้ลูกน้อยสบายตัวมากขึ้น ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่เหมาะกับอากาศร้อนๆ ในเมืองไทยอย่างเราอย่างมาก
** รถเข็นเด็ก Aprica มีฉนวนกันความร้อนพิเศษ ที่ช่วยสะท้อนความร้อนจากพื้นขึ้นมาจากใต้ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีช่องระบายอากาศที่ช่วยระบายเหงื่อ ลดความอับชื้น ให้เด็กนอนหลับได้สบายตัวมากขึ้น
7. ทุกคนทราบดีว่าผิวหนังและดวงตาเด็กแรกเกิดมีความบอบบางไวต่อสิ่งสัมผัสและแสงแดด คุณแม่จึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่มีหลังคาบังแดดได้อย่างมิดชิด และมีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวและดวงตาของลูกน้อย และถ้าให้ดีหลังคาควรมีหน้าต่างเปิดปิดได้จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี นอกจากนี้ถ้าเลือกใช้รถเข็นที่หลังคาสามารถปรับระดับการเปิดได้หลายระดับจะช่วยให้คุณแม่ปรับระดับองศาหลังคาให้เหมาะสมกับความต้องการและทิศทางของแสงได้อีกด้วย
8. อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้สำหรับรถเข็นเด็กแรกเกิดในยุคที่เชื้อโรคพัฒนาสายพันธุ์อย่างไม่หยุดยั้ง คือ การเลือกรถเข็นที่มีเบาะสูงแบบ High Seat ซึ่งสูงจากพื้นอย่างน้อย 50 cm. เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องลูกน้อยจากฝุ่นและสิ่งสกปรกบนพื้นนอกบ้านแล้ว ยังช่วยให้ห่างไกลจากบนพื้นถนนส่งไอความร้อนมาสะสมที่บริเวณหลังของเด็ก รถเข็นที่มีความสูงมากกว่า 50 cm. จะช่วยลดอุณหภูมิลงได้ถึง 2 องศา และลดระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลง10-20 %
9. คุณแม่ยุคใหม่ที่รักการเดินทางมักเลือกรถเข็นที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ซึ่งรถเข็นส่วนใหญ่มักมีชิ้นส่วนและข้อพับหลายชิ้นทำให้ไม่แข็งแรง วิธีสังเกตุความแข็งแรงของรถเข็นคือการ เลือกรถเข็นเด็กแรกเกิดที่มีโครงสร้างต่างๆ เชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน จะช่วยลดลอยต่อข้อพับต่างๆเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจะข้อต่อที่หลวมได้ดีอีกด้วย
10. และเพราะรถเข็นต้องถูกใช้นอกบ้าน เราอาจต้องเข็นในบริเวณที่มีความขรุขระหรือพื้นที่มีรอยต่อของอิฐอย่างอิฐตัวหนอนในสวนสาธารณะ รถเข็นที่มีระบบรองรับการสั่นสะเทือนหรือโช้คอัพที่ล้อจะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลนั่งสบายให้กับลูกน้อยและช่วยให้คุณแม่เข็นง่าย ในปัจจุบันรถเข็นรุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาให้เพิ่มระบบโช้คอัพรองรับแรงกระแทกได้มากขึ้นเป็น 2 จุด ทั้งที่ล้อ และใต้ที่นั่ง ช่วยลดการสั่นสะเทือนลงได้อีกถึง 40% ให้ลูกน้อยหลับสบายตลอดการเดินทาง
11. หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าทุกครั้งที่เอาลูกลงนั่งรถเข็นแล้วร้องไห้ เพราะลูกไม่ชอบนั่งรถเข็น ซึ่งก็อาจจะถูก แต่ที่จริงแล้วหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ลูกร้องอาจะเป็นเพราะรถเข็นบางคันไม่สามารถเข็นได้ 2 ทาง ทำให้เมื่อวางลูกลง คุณแม่จะต้องไปยืนเข็นจากด้านหลังทำให้ลูกไม่สามารถเห็นหน้าคุณแม่ได้ จึงทำให้ร้องไห้ ดังนั้นการเลือกใช้รถเข็นสำหรับเด็กในวัยแรกเกิด-6 เดือนควรเลือกรถเข็นที่ปรับเข็นได้ 2 ทิศทาง เพื่อให้คุณแม่สามารถอยู่ใกล้ชิดลูกน้อยได้ตลอดเวลา ลูกน้อยได้เห็นคุณแม่จะทำให้รู้อบอุ่นมั่นใจและมีความสุข นอกจากจะเสริมสร้างสายใยความผูกพัน ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้สำหรับทารกได้ดีอีกด้วย และการเลือกรถเข็นที่มาพร้อมระบบล้อหมุน360 องศาอัตโนมัติทั้ง 4 ล้อ หรือที่เรียกว่า Auto 4 wheel จะช่วยให้การเข็นได้ไหลลื่นสบายโดยเฉพาะเมื่อเข็นในที่แคบ สามารถปรับเปลี่ยนทิศทางการเข็นได้ง่าย
12. นมคืออาหารหลักของเด็กแรกเกิด เมื่อเด็กต้องทานนมทั้งวันก็ต้องฉี่บ่อย หรืออาจเกิดอาการสำลัก อาเจียร ทำให้รถเข็นเลอะเทอะ ฉะนั้นการเลือกรถเข็นเด็กแรกเกิดที่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย เบาะแห้งไว ซักได้บ่อยเท่าที่ต้องการ จะช่วยให้รถเข็นสะอาดไร้กลิ่นอับเพื่อสุขอนามัยที่ดี
*** ข้อมูลอ้างอิงจาก
8.3.8 Principle The Reason Behind That Smile คือ หัวใจหลักที่ Aprica ยึดมั่น เป็นแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยม เพื่อปกป้องและดูแลเด็กแรกเกิด คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ ศูนย์วิจัย Aprica จากประเทศญี่ปุ่น
แนะนำรถเข็นเด็กแรกเกิด Aprica ที่มีคุณสมบัติครบครันเพื่อความสุขแบบ Double 2 รุ่น
ร่วมฉลองความยิ่งใหญ่ ครบรอบ 70 ปี Aprica
เป็นเวลากว่า 70 ปีแล้ว ที่ Aprica ได้เป็นผู้ผลิตชั้นนำของ รถเข็นเด็ก คาร์ซีท และ ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอื่นๆ ผลิตและคิดค้นวิจัยโดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ที่นำเทคโนโลยีในหลายๆ ด้านมาใส่ในรถเข็นและคาร์ซีท ภายใต้คอนเซ็ป The reason behind that smile ผลิตภัณฑ์ สำหรับเด็กที่ดีเยี่ยมเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับทุกครอบครัว
ประวัติความเป็นมาของ Aprica ที่คุณอาจไม่เคยรู้
- Aprica ก่อตั้งในปี 1947 ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการดูแลเด็กทารกให้มีคุณภาพสูงสุด
- ได้รับความไว้วางใจจากคุณแม่ชาวญี่ปุ่นและนานาชาติมากว่า 70 ปี
- เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก อันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น
- ศูนย์กลางวิจัยเกี่ยวกับการคิดค้นผลิตภัณฑ์เด็กตั้งอยู่ในเมืองนาราประเทศญี่ปุ่นด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 10,000 ล้านเยน
- Aprica เป็นบริษัทแรกในโลก ที่มีการใช้หุ่นจำลองเด็กทารกขนาด 2.5 kg. ที่มีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท โดยหุ่นจำลองนี้มีข้อต่อและอวัยวะในร่างกายเช่นเดียวกับเด็กทารก ติดตั้งเซ็นเซอร์ตัวรับสัญญาณในส่วน ต่างๆ ทั่วร่างกาย เพื่อตรวจวัดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการกระแทกในอุบัติเหตุจำลองรูปแบบต่างๆ
- Aprica ได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดทำรถเข็นและผลิตภัณฑ์เด็กรุ่นพิเศษ ภายใต้ชื่อ Royal Knot เพื่อทูลเกล้าถวายแด่ราชวงศ์ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเชื้อพระวงศ์ในอีกหลายประเทศทั่วโลก
- ได้รับรางวัลทรงเกียรติจากสถาบันนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น
- รางวัล “Naito KotobukiShichiro” รางวัลศูนย์เด็กเล็กระหว่างประเทศ
- รางวัลให้คำปรึกษายอดเยี่ยมจาก รพ.สาธรณะสุขท้องถิ่นในญี่ปุ่น
- ได้รับการยอมรับจากหนังสือพิมพ์ “Mainichi Shimbun”
- รางวัลนานาชาติเรื่องการดูแลเด็ก
- รางวัล PARENTING AWARD
- เป็นผู้คิดค้นคาร์ซีทแบบนอนได้ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัยของทารก ซึ่งถือได้ว่าเป็นคาร์ซีทที่เหมาะสำหรับเด็กมากที่สุด
- ได้คิดค้นรถเข็นเด็กแบบพับได้ที่มีขนาดเล็กที่สุดในปี 1949
- ทุกวันนี้ Aprica ยังคงทุ่มเทพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กแรกเกิดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เด็กๆ และทุกครอบครัวมีแต่รอยยิ้มอย่างมีความสุข
พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ร่วมฉลอง Aprica เข้าสู่ปีที่ 70 อย่างยิ่งใหญ่ กับโปรโมชั่นสุดคุ้ม เลือกช้อปได้ที่ Baby Gift ทุกสาขา รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลย : BabyGiftRetail
รีวิวรถเข็นเด็กที่ทุกบ้านควรมี Aprica Magical Air Plus Highseat
สวัสดีค่ะ ^_^ อุปกรณ์คู่ใจของแม่ ๆ สุดสตรองทุกท่านก็คงหนีไม่พ้น “รถเข็นเด็ก” จริงไหมคะ..? ส่วนตัวมดเอง ลองใช้รถเข็นมาหลายยี่ห้อ แต่ตอนนี้บ้านเรากำลังจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหลายวัน รถเข็นคันเดิมเริ่มไม่ตอบโจทย์เรื่องการพกพาอีกต่อไปแล้ว เพราะแค่ของใช้ก็เต็มรถแล้วค่ะ เราจึงมีโจทย์ในการหารถเข็นคันใหม่ว่า ต้องมีน้ำหนักเบา พับเก็บง่าย และแน่นอนว่าต้องเป็นแบรนด์ดังที่แม่ ๆ ไว้ใจ
เหมือนสวรรค์มีตา 555 เพราะไม่กี่วันต่อมา เราก็ไปเจอใน IG คุณโอปอล์ว่า เพิ่งถอยรถเข็นใหม่ให้น้องอลิน อลันเหมือนกัน แถมยังเชียร์ว่ามันเบา ใช้งานสะดวกมากกก คุณแม่ขาช็อปอย่างเราก็ไม่รอช้าค่ะ ไปซื้อตามด่วน ๆ
คุณโอปอล์ซื้อรถเข็นจากร้าน BABYGIFT ค่ะ มดเองไม่มีเวลาไปที่ร้าน เลยสั่งซื้อออนไลน์ กดสั่งปุ๊บ รอไม่นานก็มีน้องเสียงสวยโทรมานัดวันจัดส่งทันที 2 วันก็ได้ของค่ะ สะดวกมากก
แล้วเราก็ได้รถเข็นที่ตอบโจทย์การใช้งานมา 1 คัน และนี่คือ “Aprica Magical Air Plus Highseat” รุ่นนี้มีจุดเด่นตรงที่ เล็ก และน้ำหนักเบา ที่สุด ตัวนี้เค้าแนะนำสำหรับเด็กไม่เกิน 15 โล แต่ลูกบ้านนี้หนัก 16 โลก็ยังนั่งสบาย ๆ เลยค่ะ ราคาอยู่ที่ 10,335 บาท
อย่างที่ทราบกันดีว่า “ถ้ารถเข็นต้อง Aprica” ดังนั้นเค้าจึงมีความพิเศษค่ะ
รุ่นนี้น้ำหนักเบาเพียง 3.3 kg ถือมือเดียวได้สบาย ๆ และที่นั่งเป็นแบบ High Seat สูงจากพื้นดิน 52 cm. ซึ่งจะทำให้ฝุ่นละอองและความร้อนจากพื้นนั้นห่างจากลูกยิ่งขึ้น แถมยังสามารถพับเก็บได้แบบ One Step และล้อทั้ง 4 ก็จะติดกับพื้น ลากได้สบาย ๆ ค่ะ จะขึ้นรถ ลงเรือ เดินทางกันสองคนแม่ลูกก็ไม่เป็นอุปสรรค ชิลล์ไปอีกกก
เวลาพับเก็บจะประมาณนี้ค่ะ ล้อติดกับพื้นลากได้เลย
ตัวพนักพิงค่อนข้างกว้าง แถมยังปรับเอนได้ นั่งสบาย
มี Belt ถึง 5 จุด เด็กซนมากก็เอาอยู่ค่ะ
ที่กั้นหน้ารถเปิดออกได้ อุ้มลูกขึ้นลงได้สะดวกค่ะ
ความพิเศษอีกอย่างของรุ่น Plus ก็คือ ในส่วนของหลังคาบังแดดจะใหญ่ขึ้น ช่วยกัน UVได้ดีขึ้น และมีม่านตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศและความร้อนได้เป็นอย่างดี และสามารถมองวิวทิวทัศน์ได้สบาย ๆ แถมยังมีช่องระบายความร้อนที่มาพร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษ จะทำหน้าที่สะท้อนความร้อน ไม่ให้สะสมที่หลังของลูก ดังนั้นไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน เค้าก็ยังสบายตัวแน่นอนค่ะ
ช่องเก็บของ ขนาดกำลังพอดีค่ะ ปกติบ้านนี้เอาไว้ใส่ขวดน้ำ ทิชชู่เปียก
อันนี้ไม่ใช่ล้อหักนะคะ แต่ร้านเค้าบอกว่ามันคือล้อระบบ 3D Suspension ที่จะปรับเอียงองศาเพื่อรักษาสมดุลของที่นั่ง ช่วยลดแรงกระแทกเหมือนโช๊คอย่างนึง ทำให้ลูกนั่งได้สบายมากขึ้น เริ่ดมากก
จากที่ใช้มาสักพัก ก็รู้สึกประทับใจและอยากแนะนำต่อค่ะ เราสองคนแม่ลูกไปไหนกันเองได้สะดวกขึ้น ด้วยการพับเก็บแบบ One Step ที่เค้ามีให้ พับกางมือเดียวไม่เสียเวลาเลยค่ะ ขึ้น BTSหนีรถติดกันประจำ ฮ่า ๆ บอกได้เลยว่า คนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวต้องมีไว้! และความเป็น High Seat ก็ทำให้แม่เชื่อมั่นขึ้นไปอีก ว่าเหมาะกับเมืองที่อากาศร้อนและฝุ่นเยอะอย่างไทยมากกกนอกจากนี้จะถอดเบาะซัก ทำความสะอาดก็ง่าย เอาเป็นว่าปลื้มมมม รถเข็นนี่เป็นของที่ไม่ต้องซื้อกันบ่อย ๆ เพราะฉะนั้นจะซื้อซักคันก็ควรเลือกที่คุณภาพดี คุ้มค่านะคะ
สุดท้ายนี้ถ้าคุณแม่สนใจรถเข็นเด็ก หรืออุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับแม่และเด็ก สามารถเลือกชมได้ทาง www.babygiftretail.com นะคะ
เขียนโดย Natthanya Wongkhajornklai
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : adaywithminimilin
รถเข็นเด็ก Aprica คันไหน คือตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ
เพราะแม่แต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่าง Aprica จึงสรรสร้างนวัตกรรมที่รองรับทุกความต้องการด้วยรถเข็นหลากหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน
มาดูกันว่ารถเข็นเด็ก Aprica คันไหนคือรถเข็นเด็กที่ใช่สำหรับคุณ
แม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ทุ่มเททุกความสุขเพื่อลูกและคนในครอบครัวเป็นสำคัญ
ถ้าคำว่า “ที่สุด” คือนิยามของคุณรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดสำหรับลูก คือคำตอบเดียวที่คุณต้องการ
เลือกรถเข็นที่โดดเด่นในเรื่องนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมอบความสบาย นุ่มนวล ปกป้องลูกน้อยแบบ 360 องศา ใส่ใจในสุขภาพและเสริมสร้างพัฒนาการ เพื่อเทวดานางฟ้าตัวน้อย
Optia
- น้ำหนักรถเข็น 6.8 kg.
- สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
- ปรับนอนราบได้ 170 องศา
- ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
- ระบบโช๊คใต้ที่นั่งและบริเวณล้อ ลดแรงสั่นสะเทือนลง 40%
- ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
- หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
- ที่นั่งสูงจากพื้น 54 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
- เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้นDouble Head&Hip Support ด้วยชุดหมอนรองศีรษะและสะโพก และโครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
- สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
- เพิ่มขนาดตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่
- สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้
- ราคาปกติ 36,900 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิ๊ก
Soraria Magic basket
- น้ำหนักรถเข็น 7.5 kg.
- สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
- ปรับนอนราบได้ 170 องศา
- ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
- ช่องระบายอากาศด้านหลัง พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษ
- หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
- ที่นั่งสูงจากพื้น 56 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
- เบาะรองนอน CoolMax All Season ที่ช่วยปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือเย็น ด้วยการดูดซับเหงื่อในวันที่ร้อนจัดและให้ความอบอุ่นในวันที่อากาศหนาวเย็น ช่วยให้เทวดาตัวน้อยรู้สึกสบายได้ทุกฤดู
- ชุดหมอนรองศีรษะและสะโพก และโครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
- สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
- โครงสร้างแบบลดรอยต่อ ที่เชื่อมต่อส่วนต่างๆ เป็นชิ้นเดียวช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน
- ราคาปกติ 36,900 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิ๊ก
Luxuna CTS
- น้ำหนักรถเข็น 5.3 kg.
- สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
- ปรับนอนราบได้ 170 องศา
- ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
- ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
- ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
- หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
- ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
- เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้น
- โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
- สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
- สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้
- ราคาปกติ 29,900 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิ๊ก
Luxuna Light
- น้ำหนักรถเข็น 4.9 kg.
- สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
- ปรับนอนราบได้ 170 องศา
- หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
- ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
- เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้น
- โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
- สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
- สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้
- ราคาปกติ 23,900 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิ๊ก
ดูรีวิวสินค้าเวอร์ชั่นเต็ม
Smooove
- น้ำหนักรถเข็น 9 kg.
- สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
- ปรับนอนราบได้ 170 องศา
- ล้อแบบสูบลม ลดการสั่นสะเทือนได้ถึง 80% เข็นได้ในทุกพื้นผิว
- ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
- หลังคากัน UV 99% ขนาดใหญ่ ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
- ที่นั่งสูงจากพื้น 58 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
- เบาะรองนอนแบบ BREATHAIR ระบายอากาศลดความอับชื้นได้ดี
- โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
- การพับแบบ One step เมื่อพับแล้วสามารถตั้งรถเข็นได้ จึงไม่ทำให้รถเข็นเปื้อนฝุ่น
- สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้
- ราคาปกติ 32,900 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิ๊ก
คุณแม่นักเดินทาง ชอบท่องเที่ยวไปกะลูกสองคนก็ลุยเองได้ หรือไปทั้งครอบครัวก็ยิ่งสนุกดี
ถ้าการเดินทางท่องเที่ยวคือ กิจกรรมที่คุณต้องการทำร่วมกันกับลูก
รถเข็นเด็กแบบ Lightweight น้ำหนักเบาเพียง2.9 kg. คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณแม่ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะหิ้วขึ้นบันไดรถไฟฟ้าซักกี่ขั้น ขึ้นเครื่องบินไปอีกกี่จุดหมายปลายทางก็หมดปัญหา เพราะการเดินทางไปไหนมาไหนกับลูกน้อยเพียงลำพัง คุณต้องรับมือกับสัมภาระมากเป็นพิเศษ รถเข็นน้ำหนักเบาพับกางง่ายด้วยมือเดียวภายใน 1 วินาที ช่วยให้คุณไม่ต้องปล่อยมือจากลูกน้อยวัยซนที่ต้องการการดูแลตลอดเวลา
Karoon
- น้ำหนักรถเข็น 3.6 kg.
- สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
- ปรับนอนราบได้ 170 องศา
- ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
- หลังคาบังแดดกัน ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
- โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
- สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
- ราคาปกติ 18,900 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิ๊ก
Karoon Plus Highseat
- น้ำหนักรถเข็น 4.8 kg.
- สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
- ปรับนอนราบได้ 170 องศา
- ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
- ช่องระบายอากาศ พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
- หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
- ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
- โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
- สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
- ราคาปกติ 21,900 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิ๊ก
Magicalair Plus Highseat
- น้ำหนักรถเข็น 3.3 kg.
- สำหรับเด็กวัย 7 เดือน – 3 ปี (น้ำหนัก 15 kg.)
- ปรับเอนได้เพื่อความผ่อนคลาย
- ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
- ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
- หลังคาบังแดดกัน ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
- ที่นั่งสูงจากพื้น 52 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
- สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
- สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้
- ราคาปกติ 15,900 บาท ราคาโปรโมชั่น คลิ๊ก
Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Aprica ทั่วประเทศหรือ Baby Gift ทุกสาขา
เลือกใช้รถเข็นเด็ก Aprica ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อย
ต้องยอมรับว่า รถเข็นเด็กมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกันทำให้คุณแม่จำนวนไม่น้อยต้องการรถเข็น น้ำหนักเบา กระทัดรัด แต่ด้วยความสะดวกสบายหากเลือกไม่ดี หรือใช้ไม่ถูกวิธี อาจเกิดอันตรายและขัดพัฒนาการของเจ้าตัวเล็กได้ แล้วจะเลือกอย่างไรให้ปลอดภัยเสริมพัฒนาลูก ในขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานเรามีคำตอบ
เลือกรถเข็นเด็กให้ปลอดภัย
โครงสร้างรถเข็นแบบลดรอยต่อเพื่อความแข็งแรงและนุ่มนวลในการใช้งานและลดการสั่นสะเทือนได้อีกด้วย (Multi-Shockless)
- ล้อรถเข็น คือส่วนสำคัญ ให้ลองเข็นเดินหน้า ถอยหลังหลายๆ ครั้งเพื่อตรวจดูว่าล้อนั้นบังคับทิศทางได้ง่ายและไม่แกว่งหรือส่ายไปมา
- มีระบบรองรับแรงกระแทกที่ดีในบางครั้งที่คุณแม่ต้องเข็นพาเจ้าตัวเล็กผ่านบริเวณที่ขรุขระ รถเข็นที่มีโช๊คและโครงสร้างออกแบบมาเป็นอย่างดีจะช่วยรองรับแรงกระแทก ช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยและลดโอกาสการเกิด Baby Shanken Syndrome ได้
- ควรมีหมอนรองรับสรีระเด็กทั้งศีรษะ คอ และหลังในกรณีที่ลูกเล็กมาก เพราะเด็กทารกกระดูกสันหลังและคอยังไม่แข็งแรง จึงต้องมีหมอนที่ช่วยรองรับสรีระ ตั้งแต่ศีรษะ ต้นคอ หลัง และสะโพกเพื่อให้อยู่ในท่านอนที่ถูกต้องไม่กดทับบริเวณทางเดินหายใจ
- ระบบเบรคสำคัญคุณแม่อย่าลืมทดสอบเบรคว่าระบบได้นิ่งสนิทหรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับเจ้าตัวเล็ก
เลือกรถเข็นเด็กให้ตอบโจทย์พ่อแม่ยุคใหม่
- สามารถใช้ควบคู่กับเป้อุ้มเข้าด้วยกันเพื่อให้คุณแม่พร้อมออกเดินทางได้ทุกสถานการณ์
- น้ำหนักเบาเพื่อช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางไกลๆ ได้
- พับเก็บง่ายสามารถพับเก็บรถเข็นได้ด้วยมือเดียวและหิ้วรถเข็นขึ้นบันไดได้
- สามารถปรับเข็นได้ 2 ทิศทาง เพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถเปลี่ยนทิศทาง การเข็นและดูแลเจ้าตัวเล็กได้ใกล้ชิดมากขึ้น
เลือกรถเข็นเด็กให้ตอบโจทย์เจ้าตัวเล็ก
- เบาะรองนั่งสามารถระบายอากาศได้ดีรับรองว่าจะให้เจ้าตัวเล็กนั่งนานแค่ไหนก็ไม่มีงอแง
- สัมผัสที่อ่อนนุ่มช่วยให้เจ้าตัวเล็กสบายตัวพร้อมที่เรียนรู้สิ่งใหม่ แม้เวลานอนสมองของเจ้าตัวเล็กก็ไม่หยุดพัฒนา สัมผัสที่นุ่มจะทำให้เจ้าตัวเล็กนอนหลับดี และหลับนานขึ้นค่ะ
- หนูชอบเล่นมีของเล่นชิ้นเล็กๆ ให้หนูสัก 2-3 ชิ้น หนูก็อยู่ได้แล้ว
คำแนะนำ
- ศึกษาอุปกรณ์ของรถเข็นให้ครบทุกจุด สายรัดอยู่ตรงไหน ต้องล็อคล้ออย่างไร และที่สำคัญคุณแม่ควรใช้งานให้คล่องแคล่วในบ้านก่อน เพื่อความคล่องแคล่วในการใช้งานและความปลอดภัยของลูก
- สายรัดนั้นมีประโยชน์ ทุกครั้งที่ลูกนั่งควรรัดให้ครบทุกสาย อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาถึงแม้จะเป็นการนั่งเพียงระยะสั้น
- หมั่นเช็ครถเข็นเด็กให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสนอ หากมีการชะรุด ควรซ่อมแซมก่อนนำมาใช้นะคะ